“ฟีม” รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ ในฐานะ “เวิลด์ คลาส ไรเดอร์โค้ช” ให้กับทีมแข่งไทยฮอนด้า เกรซินี เรซซิ่ง โมโตทู แนะ “ติ๊งโน๊ต” ฐิติพงศ์ วโรกร นักขับดาวรุ่งของไทย ที่จะไปลงทำศึกโมโตทู ในครึ่งฤดูกาลหลังให้พยายามปรับตัวเข้ากับรถให้เร็วที่สุด  ก่อนที่ทั้งคู่เดินทางด้วยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 944 ไปประเทศอิตาลี  เมื่อช่วงกลางดึกคืนวันที่ 6 ส.ค.ที่ผ่านมาที่ สนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อลงทำศึกรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลกรุ่นโมโตทู  รายการอินเดียนาโปลิส กรังด์ปรีซ์ ที่สนามอินเดียนาโปลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา ในวันที่ 18 ส.ค.นี้

“สำหรับไปครั้งนี้ก็ถือว่าเปลี่ยนสถานะของตัวเอง ก็ต้องไปเรียนรู้ในสิ่งใหม่ๆ และก็จะพยายามเก็บเกี่ยวประสบการณ์ให้ได้มากที่สุด สำหรับ ติ๊งโน๊ตนั้นเป็นนักแข่งที่มีฝีมือดีและพัฒนาขึ้นมาอย่างเรื่อยๆ ก็ขอสแดงความยินดีที่ก้าวขึ้นมาสู่ระดับนี้ได้ ผมก็จะใช้ประการณ์และความรู้ของผมตลอด 7 ปีในเวทีระดับโลกจะช่วยแนะนำและแก้ไขสิ่งต่างๆ ให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งตอนนี้ก็จะต้องปรับตัวกับเฟรมเป็นอันดับแรกเพราะมันค่อนข้างเบา ถ้าหากปรับตัวได้เร็วก็จะทำให้การขับขี่ง่ายขึ้น ก็อยากขอให้เจ้าตัวนั้นมีสมาธิต่อการแข่งขันให้มาก เพราะการแข่งขันระดับนี้จะวอกแวกไม่ได้เลยแม้แต่วินาทีเดียว และหากมีอะไรไม่เข้าใจก็ถามทันที อย่าเก็บเอาไว้เพื่อที่จะแก้ไขปัญหาให้ทันถ่วงที” ฟีม กล่าว

ขณะที่ “ติ๊งโน๊ต” ฐิติพงศ์ นักขับวัย 24 ปี  ยอมรับรู้สึกตื่นเต้นมากที่จะได้ทำการแข่งขันในเวทีระดับโลกครั้งนี้ พร้อมยันจะทำผลงานให้ดีที่สุด

“ตอนนี้ยังไม่มองถึงว่าจะได้ขึ้นโพลเดียมหรือป่าว เนื่องจากผมยังใหม่อยู่ไม่จะเป็นทั้งสนาม, ทีมงาน หรือเฟรมรถ แต่อยากจะขี่ให้จบผ่านธงตาหมากรุกเข้าเส้นชัยไปก่อน โดยเฉพาะที่ อินเดียนาโปลิส กรังด์ปรีซ์ เพื่อเรียกความมั่นใจให้ตัวเองก่อน” ติ๊งโน๊ต เผย

ด้าน นายอารักษ์  พรประภา กรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด  ที่เดินทางมาส่งและอวยพรทั้ง 2 คนให้ประสบความสำเร็จในสิ่งตัวเองได้ทำให้มากที่สุด

“การเดินทางครั้งนี้ถือว่าเป็นประสบการณ์ใหม่ของทั้งคู่ โดยเฉพาะ รัฐภาคย์ ที่ขยับตัวเองก้าวขึ้นมาเป็นโค้ช นั้น ซึ่งผมก็มองว่า ฟีม นั้นก็มีพรสวรรค์ในด้านนี้เช่นกัน หลังจากเคยไปซุ่มดูเวลาที่เค้าสอนระหว่างการซ้อม เจ้าตัวก็มองเห็นปัญหาและสามารถบอกการแก้ไขและแนะเทคนิคต่างๆ ได้ทันที ผมเชื่อว่าถ้าเค้าน่าจะก้าวขึ้นไปเป็นโค้ชที่ดีในอนาคต ส่วน ติ้งโน๊ต ก็ถือว่าเป็นคนมีความสามารถ ซึ่งโอกาสนี้ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญมากไม่มีใครจะก้าวขึ้นไปขับในระดับโลกได้ ง่ายๆ เมื่อโอกาสมาถึงก็ขอให้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ในการแข่งขันให้ได้มากที่สุด ” อารักษ์ เสริม

แหล่งข่าวจาก posttoday…

นึกถึงขนมหวานอย่างน้ำแข็งใสรวมมิตร ขนมหวานเย็นชื่นใจที่พัฒนารูปแบบรสชาติจากแบบไทยๆใส่ถ้วยแก้วน้ำเชื่อมราดกะทิ สู่ยุคน้ำแข็งใสเกล็ดหิมะกับท้อปปิ้งหน้าตาอินเตอร์ ซึ่งเราขอนำเสนอสูตรทำเองได้ง่ายๆมาฝากคุณๆสำหรับวันหยุดสุดสัปดาห์ เครื่องบดน้ำแข็งโดยส่วนผสมน้ำแข็งทุบหรือป่น นมข้นหวาน นมสด น้ำผึ้ง ขนมปัง คุกกี้ ผลไม้ และของหวานต่างๆตามชอบ ซึ่งวิธีทำเริ่มจากการเอาน้ำแข็งใส่ลงไปในเครื่องปั่นน้ำผลไม้ ระหว่างปั่นใส่นมข้นลงไปด้วยสักหนึ่งในสาม ปั่นจนละเอียดก็จะได้น้ำแข็งปั่นคล้ายๆเกล็ดหิมะป่นกลิ่นรสหอมหวานชื่นใจ ตักใส่ถ้วยขนม จัดเรียงเครื่องเคียงที่ชอบ อย่าง ขนมปัง พุทธราเชื่อม แป๊ะก๊วย เยลลี่ ลูกชิด คุกกี้ ลอดช่อง ถั่วแดงเชื่อม ฯลฯ

หรือจะเป็นผลไม้ตามใจชอบ เช่น มะม่วงสุก สตรอว์เบอร์รี่ กล้วยหอม สับปะรด แตงโม ขนุน กีวี่ แคนตาลูป แก้วมังกร ฯลฯ หั่นชิ้นพอคำ วางลงบนน้ำแข็งปั่น ราดทับด้วยนมสด น้ำผึ้ง ช็อคโกแลตซอส สตรอว์เบอร์รี่ซอส หรือน้ำหวานกลิ่นรสตามชอบ อาจเพิ่มวิปครีมและไอศกรีมเข้าไปเพื่อเพิ่มสีสันให้ขนมน่าทานยิ่งขึ้นด้วยก็ได้ การเลือกใช้เครื่องบดน้ำแข็งใสเกล็ดหิมะ สะดวกในการทำงานไม่ยุ่งยาก ประหยัดเวลา เครื่องคุณภาพสูงใช้สำหรับน้ำแข็งก้อนปั่นให้เป็นน้ำแข็งใสหรือปุยหิมะ ใช้งานง่าย ปลอดภัยและเป็นรุ่นที่นิยมใช้กันมาก

ขนาดเครื่องบดน้ำแข็ง กำลังไฟฟ้า 220 โวลต์/ 180 วัตต์ ประกอบด้วยใบมีดปรับได้หลายระดับ เคลือบด้วยสแตนเลสอย่างดีทนต่อการใช้งาน มีจานวางน้ำแข็งทำจากทองเหลือง ไม่เป็นสนิมและทำให้น้ำแข็งละลายช้า มีฝาครอบด้านหน้าช่วยป้องกันฝุ่นละออง และเครื่องบดน้ำแข็งเก็บความเย็นได้ ตัวหมุนยึดน้ำแข็งด้านข้างสามารถถอดสลับซ้ายขวาได้ตามความถนัด และมีสวิตซ์เปิดปิดด้านหน้าและด้านข้างเพื่อความปลอดภัย