ฤทธิ์พายุดีเปรสชั่นถล่มภาคอีสานอุบลราชธานี-ศรีสะเกษอ่วมน้ำ-สลดทารกสังเวย1ศพที่ร้อยเอ็ด

สถานการณ์พายุดีเปรสชั่น ทำให้เกิดฝนตกหนักที่จังหวัดอุบลราชธานีติดต่อกัน 2 วันแล้ว ถนนหลายสายในเขตเทศบาลนคอุบลราชธานี เกิดน้ำท่วมขังประมาณ 50 เซนติเมตร บางแห่งสูงถึง 1 เมตร รถเล็กไม่สามารถสัญจรไปมาได้ ประชาชนต้องขนของขึ้นที่สูง โดยเฉพาะที่ถนนแจ้งสนิท ขาเข้าเมืองการจราจรรถติดยาวถึง 5 กิโลเมตร และเกิดอุบัติเหตุหลายจุด มีไฟฟ้าดับในหลายพื้นที่ และที่บริเวณสี่แยกตลาดเจริญศรี เขตเทศบาลตำบลแสนสุข อ.วารินชำราบ เกิดน้ำท่วมขังเช่นเดียวกัน

ส่วนที่จ.ศรีสะเกษ มีพายุฝนตกหนักติดต่อกัน 2 วัน 2 คืน ส่งผลให้ถนนหลายสายในเขตเทศบาลเมืองศรีสะเกษ  มีน้ำท่วมขัง พบรถจอดเสียกลางทางจำนวนมาก ถนนบางสายรถเล็กไม่สามารถสัญจรไป-มาได้ โรงงานอุตสาหกรรมหลายแห่ง และบ้านเรือนของราษฎรยังถูกน้ำท่วมขังได้รับความเสียหาย

นายสุขสันต์ บุญโทแสง หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ระหว่างวันที่ 19-21 ก.ย. นี้จะมีฝนตกหนักมากขึ้น จึงขอแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย บริเวณที่ลุ่มริมแม่น้ำ ให้ระมัดระวังน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก และดินถล่ม ซึ่งได้จัดเตรียมเครื่องมืออุปกรณ์ประจำจุดเสี่ยงพร้อมเผชิญเหตุ และช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้ในทันทีที่เกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน

สำหรับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากภาวะฝนตกหนัก สามารถติดต่อ ขอความช่วยเหลือได้ที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ศรีสะเกษ ศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษ (อาคารเก่า) ชั้น 1 หรือศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โทรสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานขอความช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป

พายุถล่มร้อยเอ็ดทารกสังเวย1ศพ

ที่ จ.ร้อยเอ็ด ตลอดคืนที่ผ่านเกิดลมพายุฝนพัดรุนแรง ยกเอาหลังคาสังกะสีบ้านในพื้นที่ ต.กกโพธิ์ อ.หนองพอก จ.ร้อยเอ็ด เสียหายเป็นวงกว้าง นอกจากนี้ยังซัดหลังคาสังกะสีกระแกกับฝาผนังบ้านเลขที่ 19 บ้านวังใหญ่ หมู่ 12 ต.กกโพธิ์ อ.หนองพอก ซึ่งก่อด้วยอิฐบล็อกพังลงมาทับหน้าท้อง ด.ญ.ชนิสรา ขันทวี ทารกหญิงอายุ 23 วัน ลูกสาวคนเล็กของ น.ส.แตงไทย พ่อสียา ได้รับบาดเจ็บสาหัส และทับใบหน้าของ น.ส.แตงไทย จนศีรษะแตก ใบหน้าฉีกเป็นแผลขนาดใหญ่ที่เหนือและใต้ตาข้างซ้าย ทั้งหมดถูกนำตัวรักษาโรงพยาบาลร้อยเอ็ด และ ด.ญ.ชนิสรา ได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา

 

แหล่งข่าวจาก posttoday…